ทรงมัลเล็ต (Mullet) เป็นหนึ่งในทรงผมที่เคยฮิตมากในยุค 1980s และ 1990s โดยมีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนคือความยาวของผมที่ด้านหลังของศีรษะซึ่งปล่อยให้ยาว ในขณะที่ผมด้านหน้าตัดสั้นกว่า มัลเล็ตเป็นทรงผมที่สะท้อนถึงความขบถและอิสระ เป็นที่นิยมในหมู่คนดังหลายคน รวมถึงนักดนตรีและนักแสดงที่เป็นไอคอนในยุคนั้น เช่น Rod Stewart, David Bowie และ Patrick Swayze
Table of Contents
แม้ว่าทรงมลเล็ตจะลดความนิยมลงในช่วงกลางทศวรรษ 1990s แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทรงผมนี้กลับมาสู่ความนิยมอีกครั้ง อาจเป็นเพราะทฤษฎี 20 Year Trend Cycle ที่ชี้ให้เห็นว่าเทรนด์แฟชั่นจะวนกลับมาทุก ๆ 20 ปี และปี 2021 เป็นช่วงที่ทรงมลเล็ตกลับมาเป็นที่สนใจในวงการแฟชั่นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบนรันเวย์ของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ หรือในสื่อโซเชียลมีเดียที่ดาราและไอดอล K-Pop หันมาใช้ทรงผมนี้กันอย่างแพร่หลาย
ในปัจจุบัน ทรงมลเล็ตได้รับการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์ที่โมเดิร์นและทันสมัยมากขึ้น การผสมผสานระหว่างลุคคลาสสิกของยุค 80s กับความร่วมสมัยในยุคนี้ ทำให้ทรงมลเล็ตกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเท่และการแสดงออกถึงบุคลิกภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
ปีที่เริ่มฮิต | 1980s – 1990s |
บุคคลที่มีชื่อเสียง | Rod Stewart, David Bowie, Patrick Swayze |
การกลับมานิยม | ปี 2021 เป็นต้นมา |
ลักษณะเด่น | ผมยาวด้านหลัง ตัดสั้นด้านหน้า |
ความหมายในสังคม | สะท้อนความขบถและอิสระ |
วิธีการตัดและจัดแต่งทรงมัเล็ต
การตัดทรงมลเล็ตเป็นเรื่องของความสมดุลระหว่างผมที่ยาวด้านหลังและการตัดสั้นด้านหน้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ทรงนี้โดดเด่น การตัดทรงมลเล็ตเริ่มจากการกำหนดความยาวของผมด้านหลัง ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะให้ยาวมากหรือน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล หลังจากนั้น การตัดผมด้านหน้าและด้านข้างจะถูกจัดการให้สั้นกว่าด้านหลัง โดยมักจะไถหรือเล็มให้เกลี้ยงเกลา เพื่อเน้นให้ผมด้านหลังดูยาวโดดเด่น
สำหรับการจัดแต่งทรงมลเล็ตนั้น สามารถปรับแต่งได้หลายรูปแบบ ทั้งการเซตให้ผมดูเรียบเนียนหรือเพิ่มวอลลุ่มด้วยการดัดผมหรือใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรง การจัดทรงมลเล็ตให้ดูดีไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการเซตมากนัก เพียงแค่รู้วิธีการจัดแต่งที่ถูกต้อง เช่น การใช้เจลหรือแว็กซ์ในการยกโคนผมหรือการจัดให้ผมดูยุ่งเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสมกับสภาพผมของคุณก็เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาทรงผมให้ดูดีอยู่เสมอ
แบบทรงมลเล็ตสำหรับผู้ชายและผู้หญิง
ทรงมลเล็ตไม่ใช่ทรงผมที่จำกัดเพศ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถตัดทรงนี้ได้ โดยมีหลายแบบให้เลือกตามความชอบของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ชาย ทรงมลเล็ตสามารถถูกออกแบบให้ดูเข้มแข็งและมีเอกลักษณ์ เช่น การตัดให้ผมด้านหน้าและด้านข้างสั้น และปล่อยให้ผมด้านหลังยาว การเพิ่มดีเทลอย่างการดัดผมหรือการใช้สีผมที่แตกต่างก็สามารถเพิ่มความโดดเด่นให้กับทรงผมได้
ในขณะที่สำหรับผู้หญิง ทรงมลเล็ตสามารถถูกปรับให้ดูซอฟต์และเข้ากับลุคที่ทันสมัย การตัดให้ผมด้านหลังยาวเล็กน้อย และผมด้านหน้าสั้น หรือการเพิ่มหน้าม้า ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้ทรงมลเล็ตดูน่ารักและไม่แข็งเกินไป การเลือกใช้สีผมที่สดใสหรือการดัดผมให้ดูยุ่งเล็กน้อยก็สามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับทรงผมนี้ได้เช่นกัน
ดาราและผู้มีชื่อเสียงที่ชื่นชอบทรงมลเล็ต
ทรงมลเล็ตได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ดาราและผู้มีชื่อเสียงทั่วโลก ทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยในยุค 1980s และ 1990s ดาราและนักดนตรีชื่อดังอย่าง Rod Stewart และ David Bowie ได้นำเสนอทรงผมนี้สู่สาธารณชน จนทำให้มัลเล็ตกลายเป็นทรงผมที่เป็นที่รู้จักและโดดเด่นในยุคนั้น แม้ว่าทรงมลเล็ตจะหายไปจากวงการแฟชั่นไปช่วงหนึ่ง แต่ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในปัจจุบัน
ในยุคปัจจุบัน ดาราและไอดอล K-Pop หลายคนได้หันมาใช้ทรงมัลเลตนี้ในการแสดงออกถึงสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร เช่น จีดราก้อน จากวง BigBang และเทมิน จากวง SHINee ที่ได้นำเสนอทรงมัลเลตในแบบที่ทันสมัยและเข้ากับแฟชั่นยุคใหม่ ทำให้ทรงผมนี้กลับมาฮิตอีกครั้ง และมีคนทั่วไปหันมาตัดตามกันอย่างแพร่หลาย
การดูแลและรักษาทรงมัลเลต
การดูแลทรงมัลเลตเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทรงผมนี้ดูดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะการรักษาความสะอาดและสุขภาพของเส้นผม การใช้แชมพูและครีมนวดที่เหมาะสมกับสภาพผมของคุณจะช่วยให้ผมดูเงางามและไม่แห้งเสีย นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมเช่นน้ำมันหรือเซรั่มบำรุง ก็จะช่วยเสริมให้ผมมีความแข็งแรงและมีสุขภาพดี
นอกจากการดูแลเส้นผมแล้ว การตัดแต่งปลายผมเป็นระยะเพื่อป้องกันการเกิดผมแตกปลายก็เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ หากคุณมีผมหยักศก การดัดหรือใช้เครื่องมือจัดแต่งผมสามารถช่วยให้ผมดูเป็นทรงสวยอยู่เสมอ การรู้จักวิธีการเซตผมในแต่ละวันก็จะช่วยให้ทรงมัลเลตของคุณดูมีชีวิตชีวาและเป็นระเบียบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้แว็กซ์หรือสเปรย์เซตผมเพื่อให้ทรงผมอยู่ทรงตลอดวัน
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
การรักษาความสะอาด | ใช้แชมพูและครีมนวดที่เหมาะกับสภาพผม |
การบำรุงเส### การบำรุงเส้นผม | ใช้น้ำมันหรือเซรั่มบำรุงเพื่อผมเงางามและแข็งแรง |
การตัดแต่งปลายผม | ตัดแต่งปลายผมเป็นระยะเพื่อป้องกันผมแตกปลาย |
การเซตผม | ใช้แว็กซ์หรือสเปรย์เซตผมเพื่อให้ทรงผมอยู่ทรงและดูดีตลอดวัน |
ทรงมัลเล็ตในแฟชั่นและวัฒนธรรมป๊อป
ทรงมัลเลตเป็นมากกว่าทรงผม มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของความอิสระและการแสดงออกถึงบุคลิกภาพที่ไม่ซ้ำใคร ในช่วงยุค 1980s ทรงมัลเลตได้รับความนิยมอย่างมากในวัฒนธรรมป๊อป โดยเฉพาะในวงการดนตรีและภาพยนตร์ ซึ่งสะท้อนถึงความเท่และความกล้าที่จะต่างจากคนอื่น ในยุคนั้น นักดนตรีและนักแสดงหลายคนได้นำทรงผมนี้มาใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงออกถึงสไตล์และบุคลิกภาพของพวกเขา
ในปัจจุบัน ทรงมัลเลตกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในวงการแฟชั่น โดยเฉพาะในวงการบันเทิงของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของแฟชั่นและความงามระดับโลก ดาราและไอดอลหลายคนได้นำทรงผมนี้มาปรับใช้ในแบบที่ทันสมัยและเข้ากับยุคใหม่ ทำให้ทรงมัลเลตกลายเป็นทรงผมที่นิยมอย่างกว้างขวางอีกครั้ง การกลับมาของทรงมัลล็ตในวัฒนธรรมป๊อปนี้ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าแฟชั่นเป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงและวนกลับมาได้เสมอ.
ฟาซิต
ทรงมัลเลตเป็นทรงผมที่มีประวัติยาวนานและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอดีตและปัจจุบัน การกลับมาของทรงผมนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของแฟชั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แม้ว่าทรงมัลเลตจะเป็นทรงผมที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ แต่การดูแลและจัดแต่งทรงผมนี้ก็ไม่ซับซ้อน หากมีการดูแลอย่างถูกวิธี ทรงมัลเลตจะเป็นทรงผมที่เสริมสร้างความมั่นใจและแสดงออกถึงบุคลิกภาพที่ชัดเจนของคุณ.
คำถามที่พบบ่อย
1. ทรงมัลเลตเหมาะกับใครบ้าง?
ทรงมัลเลตเป็นทรงผมที่เหมาะกับคนที่ต้องการแสดงออกถึงความเป็นเอกลักษณ์และความมั่นใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถตัดทรงนี้ได้ ทรงมัลเลตยังเหมาะกับคนที่ต้องการทรงผมที่ไม่ต้องดูแลมาก แต่ยังคงความเป็นสไตล์.
2. ทรงมัลเลตต้องดูแลอย่างไร?
การดูแลทรงมัลเลตไม่ยุ่งยากเท่าที่คิด ควรเริ่มต้นด้วยการใช้แชมพูและครีมนวดที่เหมาะสมกับสภาพผมของคุณ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมเพื่อให้ผมมีสุขภาพดีและเงางาม นอกจากนี้ การตัดแต่งปลายผมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหาผมแตกปลาย สำหรับการเซตทรงผม คุณสามารถใช้เจลหรือแว็กซ์เพื่อจัดแต่งทรงให้ดูมีวอลลุ่มและอยู่ทรงตลอดวัน.
3. ทรงมัลเลตเหมาะกับรูปหน้าแบบไหน?
ทรงมัลเลตเป็นทรงผมที่สามารถปรับให้เข้ากับรูปหน้าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย สำหรับคนที่มีรูปหน้ายาว การตัดทรงมัลเลตแบบที่มีวอลลุ่มด้านข้างจะช่วยให้หน้าดูสมดุลมากขึ้น ส่วนคนที่มีรูปหน้ากลม การปล่อยผมด้านหลังให้ยาวจะช่วยเพิ่มความยาวให้กับใบหน้าและทำให้หน้าดูเรียวขึ้น.
4. ทรงมัลเลตสามารถตัดให้เข้ากับสไตล์การแต่งตัวแบบไหนได้บ้าง?
ทรงมัลเลตเป็นทรงผมที่สามารถเข้ากับสไตล์การแต่งตัวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลุคที่ดูสบาย ๆ หรือลุคที่ดูแฟชั่นและเท่ห์ คุณสามารถปรับทรงมัลเลตให้เข้ากับสไตล์ของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวในลุคสตรีท ลุคแนวร็อค หรือลุคที่ดูคลาสสิค ทรงมัลเล็ตสามารถเพิ่มความโดดเด่นและทำให้สไตล์ของคุณดูแตกต่างอย่างมีเสน่ห์.
5. ทรงมัลเลตสามารถเซตแบบไหนได้บ้าง?
ทรงมัลเลตสามารถเซตได้หลากหลายแบบตามความชอบของคุณ หากคุณต้องการลุคที่ดูเรียบง่ายและสบาย คุณสามารถปล่อยผมด้านหลังยาวอย่างธรรมชาติได้ แต่หากต้องการลุคที่ดูมีวอลลุ่มและเท่ห์ สามารถใช้เจลหรือแว็กซ์เพื่อเพิ่มความเป็นมิติให้กับทรงผมได้ นอกจากนี้ การดัดผมหรือการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ทรงมัลเล็ตดูมีชีวิตชีวาและน่าสนใจมากขึ้น.
(แอนนาเบล)